ใครคือลูกค้าของคุณ หาคำตอบว่าจะบริการใคร กำหนดเป้าหมาย จับทิศทาง และวางกลยุทธ์ สำหรับสร้าง และสื่อสาร จุดขาย ของสินค้า ออกความคิด ความคิดต้องน่าสนใจ เป็นไปได้ มีโอกาสสำเร็จสำหรับสร้าง ผลิตภัณฑ์ เพื่อแก้ปัญหาลูกค้า เริ่มการทดลอง ทดลองทำ ผลิตภัณฑ์ จนกว่าจะสำเร็จ เริ่มจากสิ่งที่รู้ สมมุติฐาน วางแผน ลงมือ พิสูจน์ว่าความคิดนั้นถูกต้อง หาคำตอบว่า ความคิดนั้นถูกต้อง หรือไม่ โดย ถามผู้คนว่าสนใจมั้ย และในราคาเท่าไหร่ 2. วางแผนการเงินให้ดี วางแผน วางแผนด้านการเงินให้ดี จัดการงบการเงิน ราคาสินค้า รูปแบบรายได้ บัญชี ต้นทุน วางแผนกลยุทธ์ วางแผนโดยยึด ปัจจัย 5 ประการ สร้างสินค้าที่แตกต่าง น่าสนใจ และใส่ใจการนำกลยุทธ์ไปใช้ การตัดสินใจ ใช้โมเดล Proactive เพื่อช่วยในการตัดสินใจโมเดลเรียบง่าย ที่ได้ผลดี รวดเร็ว และถูกต้อง การสร้างแบรนด์ แบรนด์ยอดรวม ความประทับใจที่สร้างผ่านจุดปฏิสัมพันธ์ เช่น เว็บไซต์ หรือ ฝ่ายบริการลูกค้า ที่สร้างความประทับใจ 3. การตลาดนั้นสำคัญ การจัดตั้งประเภทธุรกิจ ก่อนที่จะเลือกประเภทธุรกิจ ต้องศึกษาว่าแต่ละประเภทมีผลกระทบและสำคัญยังไง เปิดตัว เปิดตัวผลิตภัณฑ์ หรือบริการ การตลาด ขายประโยชน์ของสินค้า มากกว่า คุณสมบัติ นำเสนอ สร้างอารมณ์ร่วม สร้างความเชื่อมโยง วัดผลและวินิจฉัย หาคำตอบในสิ่งที่ทำนั้นว่า เป็นไปได้ดีแค่ไหน หารทุกอย่าง ด้วยยอดขาย เพื่อดูความต่าง 4.
สินค้าใหม่อย่างซอฟต์ไอศกรีมและชากุหลาบมาแรงกว่าที่คิด น่าจะเป็นเหตุผลหลักที่ว่าทำไมในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมากระแสของชาตรามือถึงกลับมาบูมอีกครั้ง ด้วยพื้นฐานที่แข็งแกร่งเป็นทุนเดิมเมื่อมาต่อยอดผลิตภัณฑ์อย่างชากุกลาบและซอฟต์ไอศครีม ก็ทำให้คนสนใจยิ่งขึ้นโดยเฉพาะเมนูอย่างชากุหลาบที่มาพร้อมเทรนด์รักสุขภาพเป็นการเครื่องดื่มที่ช่วยในการขับถ่ายขานรับกับเทรนด์สาวๆที่อยากสวยหุ่นดีได้พอดิบพอดีทีเดียว 4. เรื่องของแพคเกจก็ออกแบบใหม่ให้สวยสะดุดตา แม้จะเป็นแบรนด์เก่าแก่แต่เมื่อคิดใหม่ทำใหม่ก็ไฉไลไม่แพ้ใคร โดยเฉพาะเมนูขายดีอย่างชากุหลาบที่เปลี่ยนแก้วเครื่องดื่มให้เป็นลายกุหลาบไปซะเลย ทีนี้ก็ยิ่งอินเทรนด์เข้าไปใหญ่ 5.
ชาตรามือ กลับมาดังอีกครั้ง! มีกลยุทธ์อะไรต้องไปดู ไม่น่าเชื่อว่ากว่า 72 ปีของชาตรามือที่เริ่มต้นจากการเป็นธุรกิจแบบครอบครัวเมื่อ พ. ศ.
ที่ตอนนี้กำลังขยายกิจการอีกหลายแห่งทั่วประเทศ มูลค่าการซื้อชาตรามือของอเมซอนนั้นสูงถึง 88. 5 ตัน/เดือน นั้นเป็นเหตุผลว่าที่ผ่านมาชาตรามือแม้ไม่ได้เป็นทอร์คออฟเดอะทาวน์แต่ตัวแบรนด์ก็ขับเคลื่อนตัวเองให้เจริญก้าวหน้าได้อย่างต่อเนื่อง โดยตัวเลขรายได้ของชาตรามือในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมาก็เติบโตขึ้นเป็นลำดับเช่นในปี 2557 มีรายได้อยู่ที่ 206 ล้านบาท ในปี 2558 รายได้ 268 ล้านบาท ล่าสุดเมื่อปีที่ผ่านมา 2559 บริษัทมีรายได้ 366 ล้านบาท พิจารณาตัวเลขให้ดีจะพบว่าในขณะที่ธุรกิจอื่นมีรายได้ลดลงและมีแนวโน้มที่ต้องปรับกลยุทธ์ตัวเองมากขึ้นแต่ชาตรามือกลับมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจึงมีคำถามน่าสนใจว่าอะไรที่ทำให้เกิดเป็น "ปรากฏการณ์ชาตรามือ" ขึ้นมาในครั้งนี้ 1. การรักษาภาพลักษณ์ในความเป็นแบรนด์ที่ชัดเจน ถ้าเราย้อนไปดูโลโก้หรือบรรจุภัณฑ์ของชาตรามือในสมัยก่อตั้งธุรกิจจนถึงเดี๋ยวนี้พบว่าแทบไม่มีอะไรแตกต่าง และนั่นคือเรื่องดีในการสร้างเป็น Brand Awareness ที่ทำให้คนจดจำได้ง่ายดาย ทุกวันนี้พูดถึงชาตรามือทุกคนก็เห็นภาพในหัวชัดเจนว่าต้องเป็นกระป๋องแดงๆ มีรูปมือยกนิ้วโป้ง เรียกว่าไม่มีแบรนด์ไหนกล้าเทียบได้เลย 2.
บังคับ คดี หัก เงินเดือน, 2024 | Sitemap