ร. บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ. ศ. 2534 มาตรา 4 จะใช้คำว่า ผู้ใดออกเช็ค แต่มิได้หมายความว่า ผู้ที่จะมีความผิดตามมาตราดังกล่าวคือผู้ที่ออกเช็คเท่านั้น ส่วนผู้ที่ร่วมกระทำความผิดกับผู้ออกเช็คไม่มีความผิด การออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ออกเช็คในขณะที่ออกไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ และออกเช็คให้ใช้เงินมีจำนวนสูงกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ในขณะที่ออกเช็คนั้น อาจจะมีผู้ที่ร่วมกระทำความผิดด้วยกันกับผู้ออกเช็ค และถือว่าผู้ที่ร่วมกระทำผิดด้วยกันกับผู้ ออกเช็ค เป็นตัวการเช่นเดียวกันตาม ป. อ. มาตรา 83 การที่จำเลยที่ 2 นำเช็คพิพาทมาทำสัญญาขายลดเช็คให้แก่โจทก์ โดยจำเลยที่ 2 เพียงแต่ลงลายมือชื่อด้านหลังเช็คพิพาท ซึ่งมีความหมายว่าเป็นผู้สลักหลัง ย่อมเป็นเพียงประกัน (อาวัล) สำหรับจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่าย นิติสัมพันธ์ระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 และการลงลายมือชื่อของจำเลยที่ 2 ในเช็คพิพาท เกิดขึ้นภายหลังจากที่มีการออกเช็คพิพาท แล้ว ทั้งไม่มีพฤติการณ์ใด ๆ ที่แสดงว่าจำเลยที่ 2 มีส่วนร่วมกับจำเลยที่ 1 ในการ ออกเช็ค พิพาท จึงถือไม่ได้ว่า จำเลยที่ 2 เป็นตัวการร่วมในการกระทำความผิด แม้จำเลยที่ 2 จะให้การรับสารภาพ ศาลก็ย่อมพิพากษายกฟ้องได้ตาม ป.
ทำไมผู้บริโภคต้องจ่ายเพิ่มจากราคาสินค้า?
1 โดยถือเกณฑ์การตัดสินผลการตรวจพิสูจน์ ว่า เป็นผู้มีสารเสพติดอยู่ในร่างกาย ดังต่อไปนี้ 1. 2. 1 กลุ่มแอมเฟตามีน และกลุ่ม MDMA (ยาอี) ต้องมีสารเสพติดชนิดนี้ ตั้งแต่ 1 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ขึ้นไป 1. 2 กลุ่มโอปิเอตส์ (Opiates)ได้แก่ เฮโรอีน มอร์ฟีน และฝิ่น ต้องมีสารเสพติดชนิดนี้ ตั้งแต่ 300 นาโนกรัม/มิลลิลิตร ขึ้นไป 1. 3 กลุ่มกัญชา ต้องมีสารออกฤทธิ์หรือกัญชา ตั้งแต่ 50 นาโนกรัม/มิลลิลิตร ขึ้นไป 1. 4 กลุ่มโคเคน ต้องมีสารหรือเมตาบอไลต์ของโคเคน ตั้งแต่ 300 นาโนกรัม/มิลลิลิตร ขึ้นไป 1. 3 จะเห็นว่า การจะถือว่า" เป็นผู้มีสารเสพติดในร่างกาย " ถ้าเป็นสารเสพติดชนิด"แอมเฟตามีนหรือเมทแอมเฟตามีน" ก็ต้องมีสารเสพติดชนิดนี้ ตั้งแต่ 1 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ขึ้นไป ดังนั้น การที่จะแจ้งข้อหาแก่ผู้ต้องหาว่า "เสพแอมเฟตามีนหรือเมทแอมเฟตามีนโดยผิดกฎหมาย" ตาม พรบ ยาเสพติดให้โทษ พ. ศ. 2522 ก็ดี หรือข้อหา "เป็นผู้ขับรถโดยมีสารเสพติดแอมเฟตามีนหรือเมืแอมเฟตามีนอยู่ในร่างกาย" ตาม พ. ร. บ. จราจรทางบก พ. 2522 ก็ดี ล้วนต้องใช้ผลการตรวจพิสูจน์ขั้นยืนยันผลทั้งสิ้น เมื่อยืนยันผลว่ามีสารเสพติดชนิดแอมเฟตามีนหรือเมทแอมเฟตามีนอยู่ในร่างกายแล้ว ผู้ต้องหานั้น ย่อมมีความผิดฐาน เสพ ตาม พ.
คุณสมบัติ 1. มีสัญชาติไทย 2. สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรืออนุปริญญาทางนิติศาสตร์จากสถาบันที่สภาทนายความอนุมัติ 3. ไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่องในศีลธรรมอันดีและไม่เป็นผู้ได้กระทำการใด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่น่าไว้วางใจในความซื่อสัตย์สุจริต 4. ไม่อยู่ในระหว่างต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก หรือเป็นบุคคลล้มละลาย 5. ไม่เป็นโรคติดต่อซึ่งเป็นที่รังเกียจแก่สังคม หลักฐานที่ใช้ประกอบการสมัครอบรมวิชาว่าความ 1. หนังสือรับรองคุณวุฒิชั้นอนุปริญญา หรือปริญญาตรีทางนิติศาสตร์ ซึ่งสภาทนายความ เห็นว่ามีมาตรฐานการ ศึกษาควรเป็นทนายความได้ (เฉพาะหนังสือรับรองที่ออกโดยสภามหาวิทยาลัยหรือปริญญาบัตร) ต้องถ่ายเอกสาร พร้อมตัวจริงแนบใบสมัคร จำนวน 1 ชุด 2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน/ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ อื่น ๆ จำนวน 1 ชุด 3. สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ชุด 4. รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำนวน 4 รูป (แต่งกายสุภาพถ่ายไม่เกินหกเดือน) 5. กรณีที่เปลี่ยนชื่อตัว ต้องแนบหนังสือสำคัญการเปลี่ยนชื่อตัว 6. กรณีที่เคยต้องคำพิพากษา หรือถูกลงโทษทางวินัย ต้องแนบสำเนาคำพิพากษาถึงที่สุดหรือคำสั่งลงโทษ 7.
096-826-3935 แนะแนวเรื่อง
ยาเสพติดฯ แต่ให้สั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาฐาน เสพขับ ตาม พรบ จราจรทางบกฯ รวมถึงปัญหา ศาลมีคำสั่งยกฟ้อง เพราะอัยการฟ้องข้อหา เสพโดยที่ผู้ต้องหาไม่ผ่านกระบวนการฟื้นฟู ตาม พรบ ฟื้นฟูฯ เป็นต้น ล้วนเป็นผลมาจากการจับไม่ชอบของผู้จับกุมทั้งสิ้นมีผลต่อเนื่องในชั้นสอบสวนและชั้นอัยการ 1. 6 วิธีปฎิบัติที่ถูกต้อง คือ ผู้ จับต้องนำปัสสาวะของผู้ต้องสงสัยตรวจที่โรงพยาบาล รวมทั้งส่งตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อให้ได้รับผลการตรวจขั้นยืนยันผลเสียก่อน จากนั้น ให้นำผลตรวจขั้นยืนยันผลเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พงส. เพื่อให้สอบสวนดำเนินคดี ทาง พงส. จะได้ออกหมายเรียกและ/หรือออกหมายจับนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่ง ตร. เคยมีหนังสือแจ้งเวียนและวางแนวทางปฎิบัติไว้แล้ว แต่ผู้จับกุมยังไม่ปฎิบัติตาม ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องต่อ ปปท หรือ ปปช. และฟ้องลงโทษยังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบได้.. หากได้ปฎิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยชอบ ก็จะไม่มีปัญหาในการปฎิบัติแต่อย่างใด.. ครับ โดย พ. ต. อ. ดร. สมเจตน์ พลอยจั่น ให้คำปรึกษาเบื้องต้น ก่อนชั้นศาล ประสานงานรับเรื่องโทร ที่ปรึกษาโอ 0999166657 ฝ่ายประสานงาน 0640461152 ฝ่ายประสานงาน 0837377040 ประจำสำนักงาน ไลน์ไอดี Lawyer0007 รับปรึกษาปัญหาข้อกฎหมายและรับทำคดีทั่วราชอาณาจักร THTWORLD.
- บาท - ประเภทตลอดชีพ ค่าธรรมเนียม 4, 800. - บาท หมายเหตุ โปรดตรวจสอบข้อมูลที่สภาทนายความอีกครั้ง นะครับ
ยาเสพติดฯ และเสพขับ ตาม พ. จราจรทางบกฯ เป็นการกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระ ตามกฎหมาย 1. 4 กรณีตามหนังสือเวียนอัยการสูงสุด แจ้งเวียนอัยการทุกหน่วยว่า ผลการตรวจของ รพ. ซึ่งตรวจโดยวิธีทดสอบปฎิกิริยาภูมิคุ้มกันวิทยา (Immunoassays)หรืออิมมูโนวิทยา ซึ่งเป็นการตรวจชั้นที่ 2 ชั้นคัดกรองปริมาณสารเสพติด โดยที่ยังไม่ตรวจถึงขั้นยืนยันผลโดยวิธี Cromatography ซึ่งโรงพยาบาลของรัฐรายงานผลตรวจว่า พบสารแอมเฟตามีนหรือเมทแอมเฟตามีน แต่ผลตรวจในขั้นยืนยันผลที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ยืนยันว่า "ไม่พบสารเสพติดชนิดใดๆในร่างกายของผู้ต้องหา" นั้น อัยการสูงสุดจะนำผลตรวจเบื้องต้นของโรงพยาบาลของรัฐนั้น มาฟ้องเพื่อให้ลงโทษผู้ต้องหาฐาน "เสพยาเสพติด " ตาม พรบ ยาเสพติดฯ พศ 2522 นั้นไม่ได้ ต้อง"สั่งไม่ฟ้องทั้ง เสพและเสพขับ" ตาม พรบ ยาเสพติดฯและ ตาม พรบ จราจรทางบก 2522 ถึงจะชอบด้วยพยานหลักฐาน... 1. 5 ปรากฎว่า ในปัจจุบัน ผู้จับกุมนำผลการตรวจของโรงพยายาลของรัฐ ซึ่งมีความสามารถตรวจในขั้นตรวจเบื้องต้น ชั้นที่ 2 โดยวิธีตรวจทดสอบปฎิกิริยาภูมิคุ้มกันวิทยา(Immunoassays) หรืออิมมูโนวิทยา มาใช้เป็นหลักฐานในการจับกุม แต่เมื่อพนักงานสอบสวนนำปัสสาวะส่งตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งตรวจยืนยันผลว่า ไม่พบสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งทำให้เกิดปัญหาในทางปฎิบัติติดตามมาอย่างมากมาย เช่น ผู้จับจับไม่ชอบเพราะมิใช่ความผิดซึ่งหน้า รวมทั้งอัยการสูงสุดเวียนให้สั่งฟ้องผู้ต้องหาฐาน เสพ ตาม พรบ.
LIRT คลังสารสนเทศของสถาบันนิติบัญญัติ
"บี พีระพัฒน์" เจอทนายความแหกกลางเฟซ หลังจะไล่ฟ้องชาวเน็ต เรียกได้ว่าอีกคนที่เจอคำวิพากษ์วิจารณ์และกระแสดราม่าจากชาวโซเชียลจนชื่อทะยานติดเทรนด์ทวิตอีกคนแล้ว สำหรับนักร้องหนุ่มชื่อดังอย่าง " บี พีระพัฒน์ เถรว่อง" หลังจากที่เจ้าตัวได้โพสต์เฟซบุ๊ก " บี พีระพัฒน์ Be Peerapat" ตามหาทนายความที่รับทำคดีหมิ่นประมาทและ พ. ร. บ. คอมพ์ หลังจากที่โดนกระหน่ำแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย " ทนายท่านไหนอยากทำคดีหมิ่นและพรบคอมครับ อินบอกซ์มาเลยครับ " ซึ่งโพสต์ดังกล่าวนั้นถูกให้ความสนใจและมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก แต่มีหนึ่งท่านที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า " คอมเม้นไหนหมิ่นหรอคะ วานผู้รู้บอกบุญ " ซึ่งหนุ่มบี ก็ตอบกลับไปว่า " ทนายเค้ารู้จะหนู " แต่ที่ทำเอาพีคสุดๆ ก็คือมีคนที่มาแสดงความคิดเห็นอีกหนึ่งคนซึ่งคาดว่าจะเป็นทนายความ ตอบกลับไปว่า " ตอบในฐานะทนาย ไม่มี " เล่นเอางานนี้สะเทือนเลยทีเดียว เอาเป็นว่า จะจบยังไงก็ต้องติดตามกันต่อไป
บังคับ คดี หัก เงินเดือน, 2024 | Sitemap