21 กำหนดคำเตือนดังนี้ คำเตือน – ไม่ให้ในเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี หรือใช้มากกว่า 10 วันโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ ถ้าใช้ในอาการข้ออักเสบ หรือรูมาตอยด์ หรือในสถานการณ์นั้น คำเตือน – ถ้ามีอาการปวดมากกว่า 10 วัน หรือยังมีอาการแดง หรือในภาวะที่มีผลกระทบต่อเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ให้ปรึกษาแพทย์ทันที สหราชอาณาจักร Human Medicines Regulations 2012 [SI 2012/1916] (บังคับใช้ 14 สิงหาคม ค. 2012) กำหนดให้มีการแจ้งคำเตือนว่า 1. "ห้ามรับประทานยาอื่นที่มีพาราเซตามอลเป็นส่วนประกอบในขณะที่ใช้ยานี้" (จุดมุ่งหมายของข้อความใช้สำหรับผลิตภัณฑ์ของผู้ใหญ่หรือเด็กอายุมากกว่า 12 ปี) หรือ "ห้ามให้สิ่งอื่นใดที่มีพาราเซตามอลเป็นส่วนประกอบในขณะที่ให้ยานี้" (จุดมุ่งหมายของข้อความใช้สำหรับผลิตภัณฑ์ของเด็กอายุไม่เกิน 12 ปี) 2. "แจ้งแพทย์ถ้ามีการรับประทานยาที่มากเกินไปแม้ว่าจะรู้สึกดีขึ้นแล้วก็ตาม" หรือ "แจ้งแพทย์ถ้ามีการรับประทานยาที่มากเกินไปแม้ว่าจะรู้สึกดีขึ้นแล้วก็ตาม เนื่องจากผลของพาราเซตามอลในการทำลายตับอาจมีการแสดงอาการช้าออกไป" (สำหรับผลิตภัณฑ์ของผู้ใหญ่หรือเด็กอายุมากกว่า 12 ปี) หรือ "แจ้งแพทย์ถ้าเด็กมีการรับประทานยาที่มากเกินไป แม้ดูเหมือนจะดีขึ้นแล้วก็ตาม" หรือ "แจ้งแพทย์ถ้าเด็กมีการรับประทานยาที่มากเกินไปดูเหมือนจะดีขึ้นแล้วก็ตาม เนื่องจากผลของพาราเซตามอลในการทำลายตับอาจมีการแสดงอาการช้าออกไป" (สำหรับผลิตภัณฑ์ของเด็กอายุไม่เกิน 12 ปี) เอกสารอ้างอิง [1] National Institutes of Health.
ศ. 1998-2003 สาเหตุเกิดจากพาราเซตามอล ร้อยละ 48 ขณะที่สถานการณ์ในประเทศไทย รายงานจากศูนย์พิษวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี ชี้ว่า "ในปี 2558 มีรายงานพิษจากพาราเซตามอล รวม 960 ราย" สาเหตุที่ทำให้คนส่วนใหญ่ได้รับพาราเซตามอลเกินขนาด ปัจจัยสำคัญไม่เพียงเกิดจากการใช้ยาซ้ำซ้อน จากยาชนิดอื่นที่มีพาราเซตามอลเป็นส่วนประกอบ แต่ยังรวมถึงการใช้ยาเกินขนาดโดยไม่ได้ตั้งใจ ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปลายปี 2559 ที่ผ่านมา ศูนย์วิชาการเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา (กพย. ) ได้ออกมาย้ำเตือนผลเสียต่อร่างกายอีกครั้ง พร้อมระบุว่าในผู้ใหญ่ห้ามกินเกิน 4, 000 มก. /วัน ใช้ติดต่อกันไม่เกินเวลาที่กำหนด แบ่งเป็นการกินเพื่อแก้ปวด 5 วัน ลดไข้ 3 วัน หากอาการไม่ดีขึ้นควรไปพบแพทย์ ปัจจุบันพาราเซตามอลชนิดเม็ดที่วางขายในท้องตลาด มีหลายขนาดไม่ว่าจะเป็นชนิดตัวยา 325, 500, 650 มก. หากต้องการกินให้ปลอดภัยจริงๆ ต้องนำเอาน้ำหนักตัวเข้ามาคำนวณด้วย เรียกง่ายๆ ว่ากินตามน้ำหนักตัว โดยขนาดยาที่เหมาะสมอยู่ที่ 10 - 15 มก. /น้ำหนักตัว 1 กก. ยกตัวอย่างหาก น้ำหนัก 50 กก. ควรใช้ยาไม่เกิน 750 มก. /ครั้ง พาราเซตามอลที่หาซื้อได้ง่ายที่สุดในบ้านเราคือ 500 มก. หากกินครั้งละ 2 เม็ด เท่ากับว่าได้รับปริมาณยา 1, 000 มก.
จี้ผู้ผลิตปรับเปลี่ยนฉลากยาพาราฯ ใหม่ เป็นภาษาไทย ให้อ่านง่าย ชี้ให้ผู้บริโภคเห็นพิษภัย และผลกระทบข้างเคียงจากการใช้ยาเกินขนาด กรณี นพ. สุรสิทธิ์ ตั้งสกุลวัฒนา ประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบยา ทำบันทึกข้อความถึงประธาน PCT, รองผอ. ฝ่ายการพยาบาล, หัวหน้าสาขาวิชาจิตเวช, หัวหน้าศูนย์สุขภาพชุมชน และหัวหน้างานเภสัชกรรม เพื่อแจ้งมติของคณะกรรมการฯให้ปรับวิธีการใช้ยาพาราเซตามอล ซึ่งเป็นไปตามคำแนะนำของ Rational drug use (RDU) Label Working Group ที่กำหนดให้จ่ายยาพาราเซตามอล 500 mg/เม็ด รับประทานครั้งละ 1 เม็ด ห่างกันทุก 6 ชั่วโมง ตามที่เดลินิวส์ออนไลน์ ได้นำเสนอข่าวไปนั้น ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 11 ต. ค. นพ. สุรสิทธิ์ เปิดเผยเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า มติดังกล่าวเป็นแผนการดำเนินงานของโรงพยาบาลชลประทาน เนื่องจากโรงพยาบาลเห็นว่า ปัจจุบันประชาชนใช้ยาพาราเซตามอล พร่ำเพรื่อเกินไป จนเป็นอันตรายต่อตับ จึงควรสร้างความตระหนักรู้ในการใช้ยาอย่างถูกวิธี ทั้งนี้ได้มีมติปรับเปลี่ยนฉลากและวิธีการใช้ยาบนซองยาของโรงพยาบาลอีกด้วย ขณะที่ ผศ.
บังคับ คดี หัก เงินเดือน, 2024 | Sitemap